ศัลยกรรมตาสองชั้น/แก้ไขหนังตาตก/กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง

แก้ไขปัญหาดวงตาอย่างครอบคลุม ทั้งเรื่องความสวยงามและการทำงานของกล้ามเนื้อตา ด้วยเทคนิคผ่าตัดเฉพาะ โดยทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรงพยาบาล WIH

บริการศัลยกรรมตา

➡️ ตาสองชั้น (Double Eyelid Surgery)

➡️ แก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Ptosis Correction)

➡️ ผ่าตัดหนังตาบน (Upper Blepharoplasty)

➡️ ผ่าตัดถุงใต้ตา (Lower Blepharoplasty)

➡️ แก้ไขตาสองชั้นสูงเกินไป (High-Fold Correction)

➡️ เปิดหัวตา (Epicanthoplasty)

ผ่าตัดตาสองชั้น (Double Eyelid Surgery)


การทำตาสองชั้นเป็นการผ่าตัดเพื่อสร้างรอยพับที่เปลือกตาบน ซึ่งเป็นลักษณะที่หลายคนปรารถนาเพื่อความสวยงาม ทำให้ดวงตาดูโต สดใส และตื่นตัวมากขึ้น ที่ WIH เรามีเทคนิคการผ่าตัดตาสองชั้นหลักๆ สามวิธี เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการและลักษณะของเปลือกตาที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล

กรีดสั้น (Partial Incision) –  ผ่าตัดโดยการกรีดแผลขนาดเล็ก (น้อยกว่า 1 เซนติเมตร) บริเวณกึ่งกลางของเปลือกตาบน เพื่อนำไขมันส่วนเกินออก และสร้างชั้นตาใหม่โดยการเย็บผิวหนังเข้ากับกล้ามเนื้อตา

  • จุดเด่น: แผลเล็ก ฟื้นตัวไว รอยแผลเป็นน้อย
  • ข้อจำกัด: ไม่สามารถนำไขมันหรือผิวหนังส่วนเกินออกได้มาก อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีหนังตาตกมาก เปลือกตาหนา หรือมีไขมันใต้ผิวหนังมาก
  • ระยะเวลาพักฟื้น: 7-10 วัน

กรีดยาว (Full Incision)ผ่าตัดโดยการกรีดแผลตามแนวยาวของเปลือกตาบน ตั้งแต่หัวตาไปจนถึงหางตา เทคนิคนี้ช่วยให้สามารถนำผิวหนัง ไขมัน และกล้ามเนื้อส่วนเกินออกได้มากขึ้น และสามารถปรับแต่งรูปทรงของชั้นตาได้อย่างแม่นยำ 

  • จุดเด่น:สามารถแก้ไขเปลือกตาได้อย่างครอบคลุม รวมถึงการนำผิวหนังและไขมันส่วนเกินออกได้มาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีเบ้าตาลึก หรือผู้ที่เคยผ่าตัดตาสองชั้นมาก่อนแต่ไม่ประสบความสำเร็จ
  • ข้อจำกัด: ระยะเวลาพักฟื้นนานกว่า รอยแผลผ่าตัดยาวกว่า ซึ่งอาจเห็นได้ชัดเจนในช่วงแรก
  • ระยะเวลาพักฟื้น: 10–14 วัน

ไม่กรีด (Non-incision) – ผ่าตัดโดยการใช้ไหมเย็บผ่านรูเล็กๆ ที่เปลือกตาบน โดยไม่มีการกรีดผิวหนังอย่างมีนัยสำคัญ เทคนิคนี้อาศัยการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างผิวหนังกับกล้ามเนื้อยกเปลือกตา (levator muscle) หรือแผ่นทาร์ซัล (tarsal plate)

  • จุดเด่น: ไม่มีการกรีดผิวหนัง ทำให้เกิดรอยแผลเป็นน้อยมาก หรือไม่มีรอยแผลเป็นเลย ระยะพักฟื้นเร็วกว่า และมีอาการบวมช้ำน้อยกว่าเมื่อเทียบกับเทคนิคการกรีด
  • ข้อจำกัด: ชั้นตาอาจไม่คงทนเท่ากับการผ่าตัดแบบกรีด และชั้นตาอาจคลายตัวหรือหายไปเมื่อเวลาผ่านไป
  • ระยะเวลาพักฟื้น: 5–7 วัน

แก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Ptosis Correction)


การแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเป็นการผ่าตัดเพื่อยกระดับเปลือกตาบนที่หย่อนคล้อย (ptosis) ซึ่งอาจบดบังการมองเห็นและทำให้ดูเหนื่อยล้าหรืออ่อนเพลีย การผ่าตัดมีเป้าหมายเพื่อยกเปลือกตาให้อยู่ในตำแหน่งปกติ ปรับปรุงทั้งขอบเขตการมองเห็นและความสมมาตรของดวงตา การเลือกเทคนิคการผ่าตัดขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง และโครงสร้างดวงตาของแต่ละบุคคล ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ WIH Hospital พร้อมให้คำปรึกษาและวางแผนการรักษาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมกับคุณที่สุด

เทคนิคการแก้ไขภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง


“Levator Advancement”

  • เทคนิคนี้ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ Levator Palpebrae Superioris โดยการเลื่อนตำแหน่งของกล้ามเนื้อ Levator ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อหลักที่ทำหน้าที่ยกเปลือกตา
  • ศัลยแพทย์จะทำการตัดและเย็บกล้ามเนื้อให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อให้สามารถยกเปลือกตาได้ดีขึ้น ส่งผลให้ดวงตาดูสดใสและมีความกระชับ

ข้อดีของเทคนิค

✅ ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและยั่งยืน
✅ ลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การเปิด-ปิดตาไม่สมดุล
✅ แผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว และสามารถปรับแต่งตำแหน่งของเปลือกตาได้แม่นยำ

เหมาะกับใคร?

✅ ผู้ที่มีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงระดับปานกลางถึงรุนแรง
✅ ผู้ที่ต้องการแก้ไขชั้นตาที่ตกและบดบังการมองเห็น
✅ ผู้ที่ต้องการปรับบุคลิกภาพและเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน

ผ่าตัดหนังตาบน (Upper Blepharoplasty)


การผ่าตัดหนังตาบนเป็นการผ่าตัดเพื่อแก้ไขหนังตาที่หย่อนคล้อย โดยการนำผิวหนัง กล้ามเนื้อ และบางครั้งไขมันส่วนเกินออก วิธีนี้สามารถปรับปรุงทั้งรูปลักษณ์และวิสัยทัศน์ หากหนังตาที่หย่อนคล้อยบดบังการมองเห็น

สาเหตุของหนังตาหย่อนคล้อย

หนังตาหย่อนคล้อยสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ รวมถึงอายุที่มากขึ้น (ความยืดหยุ่นของผิวหนังลดลง) พันธุกรรม และบางครั้งอาจเป็นผลมาจากการบาดเจ็บที่ดวงตา หรือภาวะทางการแพทย์บางอย่าง นอกจากนี้ยังอาจเกี่ยวข้องกับภาวะคิ้วตก (brow ptosis)

ขั้นตอนการผ่าตัดหนังตาบน

  1. ศัลยแพทย์จะทำเครื่องหมายบริเวณรอยพับของเปลือกตาบนตามธรรมชาติ (หรือแนวรอยพับที่ต้องการ) ความสมมาตรเป็นสิ่งสำคัญ
  2. ฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณเปลือกตาเพื่อระงับความรู้สึก อาจใช้การให้ยาสงบสติ หรือการดมยาสลบร่วมด้วย
  3. กรีดตามแนวที่ทำเครื่องหมายไว้ โดยทั่วไปจะซ่อนอยู่ในรอยพับของเปลือกตาเมื่อลืมตา รูปทรงของการตัดออกมักจะเป็นเช่นนั้น โดยจะนำเนื้อเยื่อออกด้านข้างมากกว่า
  4. นำผิวหนังและไขมันส่วนเกินที่ยื่นออกมาออกอย่างระมัดระวัง บางครั้งอาจมีการนำเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อออก หรือปรับตำแหน่งใหม่ การสงวนเนื้อเยื่อแบบอนุรักษ์นิยมกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเพื่อรักษาความอิ่มเอิบตามธรรมชาติ
  5. ปิดแผลด้วยไหมเย็บขนาดเล็ก
  6. โดยทั่วไปการผ่าตัดหนังตาบนจะใช้เวลาประมาณ 45 นาทีถึงหนึ่งชั่วโมง

ผลลัพธ์

รูปลักษณ์ที่ดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น ด้วยเปลือกตาบนที่เรียบเนียนขึ้นและมีรอยพับที่ชัดเจนขึ้น การมองเห็นดีขึ้นหากหนังตาที่หย่อนคล้อยบดบังการมองเห็น ความมั่นใจในตนเองเพิ่มขึ้น ผลลัพธ์โดยทั่วไปจะคงอยู่ได้นาน ตั้งแต่ห้าถึงเจ็ดปี หรือตลอดชีวิตสำหรับบางคน

รีวิวคนไข้เคส “ตาบน”



ผ่าตัดถุงใต้ตา (Lower Blepharoplasty)


การผ่าตัดถุงใต้ตาเป็นขั้นตอนการผ่าตัดเพื่อปรับปรุงรูปลักษณ์ของเปลือกตาล่าง โดยการลดอาการบวม (ถุงใต้ตา) และแก้ไขผิวหนังและริ้วรอยที่มากเกินไป

สาเหตุของการเกิดถุงใต้ตา

ถุงใต้ตาเกิดจากการอ่อนแอของเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อที่รองรับเปลือกตาเมื่อเราอายุมากขึ้น สิ่งนี้ทำให้ไขมันที่ปกติจะรองรับดวงตาเคลื่อนตัวลงมาที่เปลือกตาล่าง ทำให้ดูบวม นอกจากนี้ การกักเก็บของเหลวก็สามารถมีส่วนทำให้เกิดอาการนี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตื่นนอนหรือหลังรับประทานอาหารที่มีรสเค็ม ปัจจัยอื่นๆ ได้แก่ การนอนหลับไม่เพียงพอ ภูมิแพ้ การสูบบุหรี่ และพันธุกรรม ภาวะทางการแพทย์ เช่น โรคไทรอยด์ ก็อาจมีบทบาทได้เช่นกัน

เทคนิคการแก้ไขถุงใต้ตา

การตัดแต่งไขมัน (Fat Removal) – สำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมมากเกินไป
การปรับตำแหน่งไขมัน (Fat Repositioning) – ช่วยกระจายไขมันให้สมดุล ใต้ตาดูเรียบเนียนขึ้น
การตัดแต่งผิวหนัง (Skin Excision) – สำหรับผู้ที่มีผิวหนังใต้ตาหย่อนคล้อย ต้องการให้ผิวดูตึงกระชับ

การเลือกเทคนิคขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะบุคคล รวมถึงปริมาณผิวหนังและไขมันส่วนเกิน และความชอบของศัลยแพทย์ โดยทั่วไปการผ่าตัดจะใช้เวลาประมาณหนึ่งถึงสองชั่วโมง หากทำทั้งเปลือกตาบนและล่างพร้อมกัน โรงพยาบาล WIH ใช้เทคนิคการผ่าตัดที่ทันสมัยและปลอดภัย ช่วยลดการบวมช้ำและให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

เทคนิคแผลผ่าตัดถุงใต้ตา


แผลด้านนอก (Subciliary Approach)

เป็นการกรีดใต้แนวขนตาล่างเล็กน้อย ช่วยให้สามารถนำทั้งผิวหนังและไขมันส่วนเกินออก รวมถึงกระชับผิวหนังเปลือกตาล่าง อาจใช้เทคนิค “pinch” เพื่อกำหนดปริมาณผิวหนังส่วนเกินที่จะนำออก หรือสร้างแผ่นผิวหนังและกล้ามเนื้อ (skin-muscle flap) ในบางกรณี

  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีถุงใต้ตาหย่อนคล้อยร่วมกับผิวหนังเกิน
  • แผลจะถูกซ่อนใต้แนวขอบตาล่าง ทำให้มองไม่เห็นเมื่อแผลหายสนิท
  • สามารถตัดแต่งไขมันและกระชับผิวหนังได้พร้อมกัน

แผลด้านใน (Transconjunctival Approach)

เป็นการกรีดภายในเปลือกตาล่าง (บริเวณเยื่อบุตา) ทำให้สามารถเข้าถึงไขมันโดยไม่มีรอยแผลเป็นภายนอกที่มองเห็นได้  สามารถนำไขมันออก หรือปรับตำแหน่งใหม่ (fat transposition) เพื่อเติมเต็มบริเวณที่ยุบใต้ดวงตาได้

  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมใต้ตา แต่ไม่มีผิวหนังส่วนเกิน
  • แผลถูกซ่อนไว้ด้านในเปลือกตาล่าง ทำให้ไม่มีรอยแผลเป็นภายนอก
  • ลดอาการบวมช้ำและฟื้นตัวเร็ว

แก้ไขชั้นตาสองชั้นที่สูงเกินไป (High Fold Correction)


ปรับระดับชั้นตาให้สวยธรรมชาติ สมดุลกับรูปตา

ภาวะ “ชั้นตาสองชั้นที่สูงเกินไป” หรือที่เรียกกันในแวดวงศัลยกรรมว่า High Fold เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยหลังการทำตาสองชั้น โดยเกิดจากการกำหนดรอยพับชั้นตาไว้สูงกว่าระดับที่เหมาะสม ทำให้เปลือกตาดูหนา ดวงตาดูแข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ หรือบางกรณีทำให้ดวงตาดูง่วง ตาเล็กลง และขาดความสมดุลระหว่างสองข้าง

ที่ WIH Hospital เรามีบริการ High Fold Correction หรือ การแก้ไขชั้นตาสูงเกินไป โดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตาเฉพาะทาง ด้วยเทคนิคที่ออกแบบเฉพาะบุคคล ช่วยลดระดับรอยพับเดิม ปรับให้ชั้นตาดูละมุน กลับมาใกล้เคียงกับธรรมชาติ และเข้ากับรูปตาและใบหน้าของคุณมากที่สุด

เหมาะสำหรับใคร?

  • ผู้ที่เคยทำตาสองชั้นแล้วได้ชั้นตาสูงเกินไป
  • ผู้ที่รู้สึกว่าดวงตาดูดุ ตาดูหลอก หรือไม่เข้ากับรูปหน้า
  • ผู้ที่ต้องการปรับโครงสร้างชั้นตาให้ดูเป็นธรรมชาติและสมดุลมากขึ้น
  • ผู้ที่มีปัญหาชั้นตาไม่เท่ากันจากการผ่าตัดก่อนหน้า

เทคนิคการแก้ไขชั้นตาสองชั้นที่สูงเกินไป


1. วิเคราะห์ระดับชั้นตาเดิมและปัญหาเฉพาะบุคคล

ก่อนการผ่าตัด แพทย์จะประเมินระดับของรอยพับชั้นตาเดิม ระยะห่างจากขอบตา (MRD1), ความลึกของ fold, ความหนาของผิวหนัง, และตำแหน่งการยึดของพังผืดหรือชั้นกล้ามเนื้อเดิม

2. การปลดพังผืดและรอยพับเดิม

ชั้นตาสูงมักมีพังผืดที่ยึดแน่นกับกล้ามเนื้อ levator หรือ dermis แพทย์จะทำการแยกชั้นพังผืดเดิมออกอย่างระมัดระวังเพื่อคลายรอยพับเดิม และป้องกันการตึงหรือดึงผิดทิศทางในอนาคต

3. ปรับระดับการยึดชั้นตาใหม่

หลังปลดโครงสร้างเดิม แพทย์จะออกแบบรอยพับใหม่ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับสรีระตาแต่ละบุคคล จากนั้นทำการเย็บยึดกล้ามเนื้อ levator หรือ tarsal plate เข้ากับ dermis บริเวณที่ต่ำลงกว่าเดิม โดยใช้เทคนิคการเย็บที่ละเอียด เพื่อให้ fold ใหม่ดูนุ่มนวล กลืนกับผิวหนังอย่างเป็นธรรมชาติ

4. ตัดแต่งไขมันหรือผิวหนังส่วนเกิน (ถ้ามี)

หากพบว่าชั้นตาหนา ร่วมกับมีไขมันหรือผิวหนังสะสม แพทย์อาจทำการตัดแต่งร่วมด้วยอย่างพอเหมาะ เพื่อป้องกันไม่ให้ชั้นตาใหม่ยังดูหนักหรือบวมหลังผ่าตัด

5. ตรวจสอบความสมดุลของดวงตาทั้งสองข้าง

การผ่าตัดจะใช้กระจกหรืออุปกรณ์วัดความสมดุลแบบเรียลไทม์ เพื่อปรับชั้นตาให้สมมาตรที่สุดทั้งสองข้าง ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่ส่งผลต่อความพึงพอใจและผลลัพธ์ระยะยาว

เปิดหัวตา (Epicanthoplasty)


การเปิดหัวตาเป็นการผ่าตัดเสริมความงามที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงรูปลักษณ์ของดวงตา โดยการปรับเปลี่ยนรอยพับของหนังตาบริเวณหัวตา ซึ่งเรียกอีกอย่างว่า Mongolian fold ขั้นตอนนี้สามารถทำให้ดวงตาดูโตขึ้น กว้างขึ้น และเปิดมากขึ้น มักจะทำร่วมกับการผ่าตัดตาสองชั้นเพื่อให้ได้รูปลักษณ์ที่สมดุลและกลมกลืนยิ่งขึ้น

เทคนิคการผ่าตัด

  • Medial Epicanthoplasty (เปิดเฉพาะด้านหัวตา) การเปิดหัวตาด้านในมุ่งเน้นไปที่การปรับเปลี่ยนรูปทรงบริเวณหัวตา โดยการคลายหรือปรับรอยพับของหนังตาบริเวณนั้น การผ่าตัดเกี่ยวข้องกับการกรีดแผลเล็กๆ ที่ผิวหนังบริเวณหัวตา แล้วทำการจัดเรียงหรือตัดผิวหนังส่วนเกินออก เพื่อเปิดบริเวณหัวตาให้กว้างขึ้น มีการใช้เทคนิคต่างๆ เช่น V-Y, W หรือ Z-plasties รวมถึงวิธีการปรับผิวหนังใหม่ (skin redraping methods) เป้าหมายคือการทำให้ส่วนด้านในของดวงตายาวขึ้น ทำให้ดวงตาดูโตและสดใสขึ้น
  • Lateral Epicanthoplasty (เปิดทั้งหัวตาและหางตา) – การเปิดหางตามุ่งเน้นไปที่การขยายขอบด้านนอกของดวงตา (lateral canthus) โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเอียงของร่องเปลือกตา (palpebral fissure) ขั้นตอนนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความยาวในแนวนอนของดวงตา และสร้างรูปทรงที่เรียวคล้ายอัลมอนด์มากขึ้น เกี่ยวข้องกับการกรีดแผลเล็กๆ ที่มุมด้านนอกของดวงตา และปรับเนื้อเยื่อเพื่อขยายดวงตาในแนวนอน เรียกอีกอย่างว่า lateral canthoplasty ซึ่งเป็นการปรับตำแหน่งของมุมตาโดยการกระชับเอ็นยึดมุมตาด้านข้าง (lateral canthal tendon)

ภาพรีวิว ก่อน – หลังการผ่าตัด

ตาสองชั้น (แบบเอเชีย)

แก้ไขหนังตาตก/เปิดหัวตา

ตาสองชั้นผู้ชาย

ตาสองชั้น/เปิดหัวตา

ผู้ที่เหมาะสมกับการทำศัลยกรรมตา

  • การทำตาสองชั้น: ผู้ที่ต้องการชั้นตาที่ชัดเจนขึ้น มีตาชั้นเดียวหรือมีรอยพับไม่ชัดเจน สุขภาพโดยรวมดี มีความคาดหวังที่เป็นจริง และเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เทคนิคเฉพาะอาจมีเกณฑ์เพิ่มเติมขึ้นอยู่กับความหนาของเปลือกตา ปริมาณผิวหนัง/ไขมันส่วนเกิน และผลลัพธ์ที่ต้องการ
  • การผ่าตัดหนังตาบน: ผู้ที่มีสุขภาพดี มีผิวหนังส่วนเกิน หนังตาบวม หรือหนังตาหย่อนคล้อยที่ส่งผลต่อรูปลักษณ์หรือการมองเห็น ไม่สูบบุหรี่ และมีความคาดหวังที่เป็นจริง
  • การผ่าตัดถุงใต้ตา: ผู้ที่มีสุขภาพดี มีถุงใต้ตา ผิวหนังส่วนเกิน หรือริ้วรอยบริเวณเปลือกตาล่าง ไม่สูบบุหรี่ และมีความคาดหวังที่เป็นจริง
  • การเปิดหัวตา: ผู้ที่มีหนังตาปิดบริเวณหัวตาที่เห็นได้ชัดเจน และต้องการให้ดวงตาดูโตและเปิดมากขึ้น มักจะทำร่วมกับการผ่าตัดตาสองชั้น สุขภาพโดยรวมที่ดีและความคาดหวังที่เป็นจริงเป็นสิ่งสำคัญ
  • การแก้ไขหนังตาตก: ผู้ที่มีหนังตาบนหย่อนคล้อยจนบดบังการมองเห็นหรือส่งผลต่อรูปลักษณ์ ผู้ที่มีภาวะหนังตาตกที่เป็นมาตั้งแต่เกิดหรือเกิดขึ้นภายหลัง และมีสุขภาพโดยรวมดี เทคนิคการผ่าตัดเฉพาะจะขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของหนังตาตก รวมถึงความแข็งแรงของกล้ามเนื้อยกเปลือกตา