3 สิ่งที่ผ่าตัดแปลงเพศต้องมี

3 สิ่งสำคัญที่เทคนิค “ผ่าตัดแปลงเพศ” ที่ดีควรตอบโจทย์


การ ผ่าตัดแปลงเพศ ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย แต่คือ “การยืนยันตัวตน” โดยสร้างความสมดุลใหม่ระหว่างจิตใจและรูปลักษณ์ภายนอกให้สอดคล้องกัน

การเลือกเทคนิคผ่าตัดที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะผลลัพธ์ที่ได้ ไม่เพียงแค่สะท้อนอยู่บนร่างกายภายนอก แต่ยังส่งผลลึกถึงสภาวะจิตใจ ความพึงพอใจในชีวิต และการมีคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว

ในปัจจุบันมีหลากหลายเทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัดแปลงเพศ แต่ไม่ใช่ทุกเทคนิคที่จะตอบโจทย์ “ชีวิตหลังการผ่าตัด” ได้จริง

จากมุมมองของศัลยแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ด้านการ ผ่าตัดแปลงเพศ มาอย่างยาวนาน พบว่าสิ่งที่เทคนิคที่ดีควรคำนึงถึง มีอยู่ 3 ด้านหลักๆ ได้แก่:

ความรู้สึก (Sensation)

หนึ่งในความคาดหวังที่สำคัญของผู้ที่ตัดสินใจผ่าตัดแปลงเพศ คือการที่อวัยวะเพศใหม่สามารถ รับรู้สัมผัสได้จริง โดยเฉพาะบริเวณคลิตอริสที่เป็นจุดศูนย์รวมของการตอบสนองทางเพศ

ความสามารถในการรับรู้สัมผัสนี้ ไม่เพียงเกี่ยวข้องกับเพศสัมพันธ์เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อความรู้สึก “เชื่อมโยงกับร่างกาย”

เทคนิคการผ่าตัดที่ดีควรให้ความสำคัญกับการ รักษาเส้นประสาทที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้สัมผัสของอวัยวะเพศชาย และนำไปสร้างคลิตอริสใหม่ที่ไวต่อการสัมผัส ซึ่งจะช่วยให้บริเวณนี้สามารถรับความรู้สึกสัมผัสได้อย่างเป็นธรรมชาติ และเพิ่มโอกาสในการบรรลุจุดสุดยอด

รูปลักษณ์ (Appearance)

การผ่าตัดแปลงเพศไม่ได้จบแค่ “ดูเหมือน” แต่ต้อง “รู้สึกว่าเป็นเรา” จริงๆ

รูปลักษณ์ของอวัยวะเพศใหม่มีผลต่อความมั่นใจของคนไข้อย่างลึกซึ้ง
ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็นร่างกายของตัวเองในกระจก การใช้ชีวิตประจำวัน ไปจนถึงการมีความสัมพันธ์กับผู้อื่น ล้วนเกี่ยวข้องกับการยอมรับในรูปลักษณ์ของตนเอง

เทคนิคการผ่าตัดที่ดีควรให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ สัดส่วนของแคมใหญ่ แคมเล็ก คลิตอริส และช่องเปิดปัสสาวะ ควรได้รับการจัดวางอย่างถูกต้อง รวมถึงควรมีการออกแบบให้เหมาะกับสรีระเฉพาะบุคคล ไม่ใช่ใช้รูปแบบเดียวกับทุกคน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมา กลมกลืนกับร่างกายโดยรวม และดูไม่แข็งทื่อเกินไป

การใช้งาน (Function)

การผ่าตัดแปลงเพศที่ประสบความสำเร็จ ไม่ได้วัดกันแค่รูปลักษณ์ที่ออกมาสวยเท่านั้น แต่ต้องสามารถ ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ซึ่งหมายถึงความลึกที่เพียงพอ ผิวภายในเรียบเนียน ไม่มีขน และสามารถรองรับการมีเพศสัมพันธ์ได้อย่างปลอดภัยโดยไม่เจ็บปวด

นอกจากนี้ ช่องคลอดต้องสามารถดูแลรักษาได้ง่าย รองรับการขยายด้วย dilator ได้อย่างเหมาะสม และลดความเสี่ยงของการเกิดพังผืด การตีบตัน หรือการติดเชื้อในอนาคต

การเลือกชนิดของเนื้อเยื่อที่ใช้บุภายในจึงเป็นสิ่งสำคัญ เช่น skin graft จากบริเวณที่ไม่มีรูขุมขน เพื่อให้ผิวภายในเรียบและมีความยืดหยุ่น

เทคนิค Non-Penile Inversion: ทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้ง 3 ด้าน


หนึ่งในเทคนิคที่ถูกพัฒนาให้สามารถตอบโจทย์ทั้งความรู้สึก รูปลักษณ์ และการใช้งานได้ครบถ้วนก็คือ
เทคนิค Non-Penile Inversion ของ นพ.เชฏสัก ตุลยพานิช ศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านการผ่าตัดแปลงเพศโรงพยาบาล WIH

เทคนิคนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อให้ผลลัพธ์ทั้งภายนอกและภายในใกล้เคียงอวัยวะเพศหญิงธรรมชาติมากที่สุด โดยไม่ใช้เฉพาะผิวหนังจากอวัยวะเพศชายเดิมเหมือนกับเทคนิคผ่าตัด Penile Inversion แบบทั่วไป แต่เลือกใช้เนื้อเยื่อที่เหมาะสมกว่าจากบริเวณอื่นในร่างกาย ซึ่งเป็นที่มาของชื่อว่า “เทคนิคแปลงเพศแบบไม่ใช้ผิวหนังจากอวัยวะเพศชาย” หรือ “Non-Penile Inversion”

จุดเด่นของเทคนิค Non-Penile Inversion (NPI)


✓ ให้ความรู้สึกสัมผัสทางเพศใกล้เคียงธรรมชาติ

เทคนิค NPI ให้ความสำคัญกับการเก็บรักษาเส้นประสาทจากอวัยวะเพศชาย โดยจะเชื่อมต่อเส้นประสาทดังกล่าวกับคลิตอริสที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ ด้วยเทคนิคการผ่าตัดแบบละเอียดสูง เพื่อเพิ่มโอกาสที่บริเวณคลิตอริสจะสามารถ ตอบสนองต่อการสัมผัสได้จริง และยังคงมีศักยภาพในการถึงจุดสุดยอดอย่างเป็นธรรมชาติ

✓ รูปลักษณ์สวยงาม ออกแบบเฉพาะบุคคล

เทคนิค NPI มีการออกแบบโครงสร้างภายนอกของอวัยวะเพศอย่างพิถีพิถันให้เหมาะกับสรีระของผู้ป่วยแต่ละคน โดยจัดวางแคมใหญ่ แคมเล็ก และคลิตอริสให้อยู่ในตำแหน่งที่ดูสมจริงและสวยงาม ส่งผลให้รูปลักษณ์ภายนอกดูเป็นธรรมชาติ

✓ ช่องคลอดลึกและใช้งานได้จริง

ช่องคลอดที่สร้างด้วยเทคนิค NPI ใช้ Skin Graft จากบริเวณที่เหมาะสม เช่น ถุงอัณฑะหรือขาหนีบ ซึ่งช่วยให้ผิวภายในเรียบลื่น ไม่มีขน และมีความลึกเฉลี่ยประมาณ 6.5–7 นิ้ว รองรับการใช้งานทางเพศได้จริง และสามารถดูแลรักษาในระยะยาวได้ง่าย ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ

🎥 ดูคลิปวิดีโอให้ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคผ่าตัดแปลงเพศโดยคุณหมอเชฏสัก
ชมคลิป 1 | คลิป 2 | คลิป 3

📩 จองปรึกษาฟรีออนไลน์วันนี้!
อีเมล : info@wihhospital.com
WhatsApp : +66 95 650 3892
หรือเพิ่มเราใน Line: @wihhospital