ศัลยกรรมเสริมหน้าอก ด้วยซิลิโคน

(BREAST AUGMENTATION WITH SILICONE IMPLANT)

การศัลยกรรมเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน เป็นศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก สำหรับผู้หญิงไทย เพราะส่วนใหญ่มักมีเนื้อหน้าอกน้อย หรือแบนราบ โดยเป้าหมายของการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน คือ การเพิ่มขนาดของหน้าอกตามความต้องการของคนไข้ โดยใช้ซิลิโคนสำหรับเสริมหน้าอกโดยเฉพาะ รวมถึงปรับขนาดสำหรับผู้ที่มีหน้าอกเดิมอยู่แล้วให้ใหญ่ขึ้น และแก้ไขปัญหาหน้าอกไม่เท่ากัน หน้าอกที่หย่อนคล้อยไม่มาก และหน้าอกไม่ชิด ให้ได้รูปทรง และสัดส่วนหน้าอกใหม่ที่สวยงาม และมีเสน่ห์

ทำไมต้องศัลยกรรมเสริมหน้าอก

โดยทั่วไปแล้ว คุณผู้หญิงมักจะเข้ารับการศัลยกรรมเสริมหน้าอก เนื่องจาก 5 ปัจจัยหลักๆ ดังนี้

  1. หน้าอกเนื้อน้อยหน้าอกเล็ก หรือแบนเรียบ ต้องเสริมทรวดทรงด้วยบรา หรือฟองน้ำเสริมหน้าอก
  2. หน้าอกไม่เท่ากันโดยปกติ ขนาดเต้านมของผู้หญิงมักจะมีขนาดไม่เท่ากันอยู่แล้ว แต่คนไข้บางคนมีขนาดไม่เท่ากันจนเห็นได้ชัด ซึ่งอาจจะเกิดจากทั้งกรรมพันธุ์ การใช้บราที่ผิดประเภทเป็นเวลานาน หรือการให้นมบุตร
  3. หน้าอกหย่อนคล้อยไม่มาก สามารถพบได้ทั้งในคนไข้ที่หน้าอกใหญ่ และเล็ก จากการที่กล้ามเนื้อหน้าอกอ่อนแรง ซึ่งอาจเกิดจากอายุที่มากขึ้น การให้นมบุตร และการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว
  4. หน้าอกไม่ชิดห่าง ซึ่งเกิดได้จากทั้งกรรมพันธุ์ การใช้บราที่แบบผิดๆ หรือการนอนผิดท่า
  5. มีหน้าอกอยู่แล้ว แต่รู้สึกไม่พอใจหน้าอกเดิม และอยากเพิ่มเพิ่มขนาด

ลักษณะดังกล่าว สามารถแก้ไขได้ด้วยการศัลยกรรมเสริมหน้าอก เพื่อให้หน้าอกใหม่สวยตามความต้องการ สร้างความมั่นใจในสรีระร่างกายให้แก่คนผู้หญิง

วิธีการผ่าตัดเสริมหน้าอก ด้วยซิลิโคน

ที่โรงพยาบาล WIH ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถทำการผ่าตัดเสริมหน้าอกได้ทั้งหมด 3 วิธีตามความต้องการของคนไข้ที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. วิธีผ่าตัดซ่อนแผลที่รอยพับใต้ราวนม (Inframammary fold incision)

เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับคนไข้ต้องการซ่อนแผลไว้ที่รอยพับใต้ราวนม โดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาล WIH สามารถผ่าตัดด้วยเทคนิคแผลเล็ก ข้อดีของเทคนิคนี้ คือ แผลจะซ่อนอยู่ที่รอยพับของฐานนมพอดี และศัลยแพทย์สามารถมองเห็นโพรง และผ่าตัดได้อย่างแม่นยำ ลดการบวมช้ำ ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

2. วิธีผ่าตัดซ่อนแผลที่รอยพับของรักแร้ (Transaxillary incision)

2.1 วิธีผ่าตัดแบบมาตรฐาน (Standard technique)

เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับคนไข้ต้องการซ่อนรอยแผลที่รอยพับของรักแร้ และไม่ต้องการให้มีแผลบริเวณทรวงอกเลย ข้อจำกัดของวิธีนี้คือ ศัลยแพทย์จะมองเห็นโพรงได้ไม่ชัดเจน จึงต้องอาศัยประสบการณ์ และความชำนาญของศัลยแพทย์

2.2 วิธีผ่าตัดซ่อนแผลที่รอยพับของรักแร้โดยการส่องกล้อง (Armpit incision – endoscopic-assisted technique)

เป็นวิธีที่ลดข้อจำกัดของวิธีผ่าตัดแบบมาตรฐาน เนื่องจากศัลยแพทย์จะใช้กล้องเอ็นโดสโคป (Endoscope) ซึ่งจะช่วยให้เห็นโพรงด้านในได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น และผ่าตัดได้อย่างแม่นยำ รวมทั้งช่วยให้แผลเล็ก เจ็บน้อย และพักฟื้นไว

3. วิธีผ่าตัดที่ขอบของปานนม (Lower-areolar incision)

เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับคนไข้ที่ไม่ต้องการให้มีแผลใต้ราวนม หรือรักแร้ โดยศัลยแพทย์จะใช้เทคนิคซ่อนแผลไว้ที่ขอบราวนมด้านล่าง ซึ่งจะกลืนไปกับขอบของปานนมพอดี

ซิลิโคนคุณภาพสูงที่ โรงพยาบาล WIH คัดสรรมาเฉพาะคุณ

ซิลิโคนที่ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรมหน้าอกของรพ. WIH เลือกใช้เป็นซิลิโคนที่มีมาตรฐานสูงสุด และได้รับการยอมรับในระดับโลกเท่านั้น ซึ่งมีทั้งหมด 2 แบรนด์ ดังนี้

1. Mentor implant

เป็นแบรนด์ที่มีผิวซิลิโคนให้เลือก 2 แบบ คือ ผิวเรียบ (Smooth Surface) และผิวทราย (Textured Surface)

  • ธรรมชาติของถุงซิลิโคนผิวเรียบ จะมีความบางกว่าผิวทราย จึงให้สัมผัสที่เหมือนธรรมชาติมากกว่า แต่มีข้อด้อย คือ โอกาสเกิดพังผืดรัดถุงซิลิโคนจะมากกว่าผิวทราย
  • Mentor Implant มีตัวเลือกทั้งหมด 2 รูปทรง คือ ทรงกลม และทรงหยดน้ำ ซึ่งปัจจุบันมีนวัตกรรมใหม่ คือ Extra Gel ซึ่งลดการเกิดรอยพับของซิลิโคนให้ความเป็นธรรมชาติมากขึ้น

2. Motiva implant

เป็นแบรนด์ซิลิโคนที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เนื่องจากเป็นซิลิโคนรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งให้สัมผัสที่นุ่มนวลเหมือนเต้านมจริง และช่วยลดอัตราการเกิดพังผืดรัดซิลิโคนได้เป็นอย่างดีด้วย เนื่องจากมีการออกแบบผิวของถุงซิลิโคนเป็นแบบ Silk Surface

ลักษณะของถุงซิลิโคนที่เป็น Silk Surface จะมีความละเอียดเป็นแบบ Nano textured โดยสามารถอยู่ในร่างกายได้ตลอดชีวิต

Motiva Implant มีตัวเลือกทั้งหมด 2 รูปทรง คือ ทรงกลม (Round shape) และทรงหยดน้ำ (Ergonomix) ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ให้ความเป็นธรรมชาติเหมือนการเคลื่อนที่ของเต้านมจริง เมื่ออยู่ในท่านอน และมีลักษณะเหมือนทรงหยดน้ำเมื่ออยู่ในท่ายืน หรือนั่ง เป็นซิลิโคนที่เหมือนเต้านมจริงมากที่สุดในปัจจุบันนี้

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศัลยกรรมเสริมหน้าอก ด้วยซิลิโคน

รายละเอียดการศัลยกรรมเสริมหน้าอก ด้วยซิลิโคน

วิธีการระงับความรู้สึก

ใช้วิธีการดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์

เวลาทำการผ่าตัด

2 ชั่วโมง

ระยะเวลานอนโรงพยาบาล

2 วัน 1 คืน

อาการ และการดูแลหลังการศัลยกรรมเสริมหน้าอก ด้วยซิลิโคน

  1. หลังผ่าตัดเสร็จ อาจมีการใส่สายระบายเลือด ซึ่งเป็นเทคนิคที่ช่วยลดอาการบวมหลังผ่าตัด
  2. นอนให้ตำแหน่งของศีรษะสูงกว่าลำตัวโดยใช้หมอน 2 – 3 ใบ เพื่อช่วยลดการบวมซ้ำช่วง 1 สัปดาห์แรก
  3. แนะนำให้ใส่ Support Bra หรือ Sport Bra เพื่อพยุงทรงของเต้านมใหม่ประมาณ 2 เดือน และสามารถใส่เสื้อในมีโครงได้หลังครบ 6 เดือนแล้ว
  4. ตัดไหม 7 – 10 วันหลังผ่าตัด
  5. รับประทานยาตามคำสั่งของแพทย์
  6. ห้ามยกของหนัก หรือออกกำลังกายหนักอย่างน้อย 2 – 3 เดือน

คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับการเสริมหน้าอก ด้วยซิลิโคน

เสริมหน้าอกวางซิลิโคนตำแหน่ง (Placement) ไหนดี

การวางตำแหน่งของซิลิโคนเสริมหน้าอก มี 2 ตำแหน่ง ได้แก่ ตำแหน่งเหนือกล้ามเนื้อ (subglandular placement) และตำแหน่งใต้กล้ามเนื้อ (submuscular or subpectoral placement)

  • ตำแหน่งเหนือกล้ามเนื้อซิลิโคนจะอยู่บนกล้ามเนื้อหน้าอก (Pectoralis major muscle) ข้อดี คือ เจ็บน้อยกว่า และหายไวกว่าตำแหน่งใต้กล้ามเนื้อ และเหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้อหน้าอกเดิมพอสมควร ข้อเสีย คือ มีรายงานการเกิดพังผืดหดรั้งถุงซิลิโคน มากกว่าเทคนิคการวางตำแหน่งใต้กล้ามเนื้อ
  • ตำแหน่งใต้กล้ามเนื้อซิลิโคนจะอยู่ใต้กล้ามเนื้อหน้าอก (Pectoralis major muscle) ข้อดี คือ ลดโอกาสเกิดพังผืดหดรั้งถุงซิลิโคน และการคลำเจอถุงซิลิโคนมากกว่าเทคนิคการวางเหนือกล้ามเนื้อ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้อหน้าอกเดิมน้อย เพื่อให้ผลลัพธ์ที่สวยเป็นธรรมชาติมากกว่า

เลือกขนาดของซิลิโคนอย่างไรให้สวย

การเลือกขนาดของซิลิโคน ขึ้นอยู่กับคนไข้ว่าต้องการความเปลี่ยนแปลงของขนาดเต้านมมาก หรือน้อย เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนไข้ให้มากที่สุด ซึ่งศัลยแพทย์จะเป็นผู้ให้แนวทางในการเลือกขนาดของซิลิโคน โดยจะประเมินจากเนื้อหน้าอกเดิม สรีระช่วงทรวงอก และไหล่ ร่วมกับความคาดหวังของคนไข้ เพื่อหาขนาดที่เหมาะสมที่สุด

คนไข้ที่มีหน้าอกหย่อนคล้อย เสริมหน้าอกได้ หรือไม่

เนื่องจากการฟื้นฟูหลังผ่าตัดของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน โดยปกติแล้ว รอยช้ำหลังเสริมจมูกจะจางลงที่ประมาณ 2 – 4 สัปดาห์ โดยแพทย์จะแนะนำให้ประคบเจลเย็นบริเวณใต้ตาหัวตา และจมูกในช่วง 3 วันแรกหลังการผ่าตัด

สำหรับคนไข้ที่มีเต้านมหย่อนคล้อยไม่มาก (ระดับของหัวนมต้องไม่คล้อยต่ำกว่าใต้ราวนม) สามารถแก้ไขได้ด้วยการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน แต่ถ้าคนไข้มีเต้านมที่หย่อนคล้อยมาก อาจจำเป็นต้องมีการยกกระชับ (Breast Lift) ร่วมด้วย

การเสริมหน้าอกด้วยเทคนิค Dual plane คืออะไร

การเสริมหน้าอกด้วยเทคนิค Dual Plane (Partial muscular placement) คือ เทคนิคการผ่าตัดตำแหน่งใต้กล้ามเนื้อ โดยส่วนบนของซิลิโคนปกคลุมด้วยกล้ามเนื้อหน้าอก และส่วนล่างของซิลิโคนปกคลุมด้วยเนื้อเต้านมเปล่า

ข้อดีของเทคนิค Dual Plane คือ สามารถแก้ปัญหาเรื่องการขยับของซิลิโคน จากการเคลื่อนที่ของกล้ามเนื้อเวลายกแขน ทำให้เต้านมมีความเป็นธรรมชาติ ช่วยให้หน้าอกส่วนบนเต็มขึ้น รวมทั้งยังสามารถช่วยแก้ไขภาวะหน้าอกหย่อนคล้อย ไม่มากได้อีกด้วย

ซิลิโคนเสริมหน้าอกทำให้เกิดมะเร็งได้ หรือไม่

การเสริมซิลิโคนไม่ได้เพิ่มปัจจัยเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านม แต่ปัจจุบันพบว่ามีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Anaplastic Large Cell Lymphoma) หรือ ALCL ซึ่งส่วนใหญ่พบในคนไข้ที่เสริมด้วยซิลิโคนผิวทราย ดังนั้นจึงแนะนำให้ใช้ซิลิโคนผิวเรียบแทน

สามารถให้นมบุตรได้ หรือไม่

การเสริมซิลิโคนไม่ได้เป็นการผ่าตัดที่ทำลายเนื้อเต้านม จึงสามารถให้นมบุตรได้ปกติ