ศัลยกรรมปรับเปลี่ยนหน้า ชายเป็นหญิง (Facial Feminization Surgery, FFS)
เป็นการผ่าตัดเพื่อปรับโครงสร้างใบหน้าจากชายให้ดูอ่อนหวาน งดงาม ใกล้เคียงกับผู้หญิงมากที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีเพศสภาพเป็นหญิงข้ามเพศ (Transgender Woman) หรือผู้ที่ต้องการปรับเปลี่ยนเพศสภาพจากชายเป็นหญิง
ศัลยกรรมปรับเปลี่ยนหน้า ชายเป็นหญิง สามารถทำได้หลายหัตถการ ขึ้นอยู่กับปัญหาและความเหมาะสมของแต่ละบุคคล โดยหัตถการที่นิยม ได้แก่
- การผ่าตัดลดโหนกคิ้ว เป็นการลดขนาดของกระดูกโหนกคิ้วให้ดูเล็กลง เพื่อช่วยทำให้ดวงตาดูกลมโตขึ้น
- การผ่าตัดเสริมหน้าผาก เป็นการเสริมหน้าผากให้ดูมีมิติมากขึ้น ช่วยให้ใบหน้าดูสมดุลมากขึ้น
- การผ่าตัดยุบโหนกแก้ม เป็นการลดขนาดของโหนกแก้มให้ดูเล็กลง ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนหวานขึ้น
- การผ่าตัดดึงมุมกราม เป็นการดึงมุมกรามให้ดูมนขึ้น ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนหวานขึ้น
- การผ่าตัดเสริมคาง เป็นการเสริมคางให้ดูเรียวยาวขึ้น ช่วยให้ใบหน้าดูสมดุลมากขึ้น
การผ่าตัดปรับเปลี่ยนหน้า ชายเป็นหญิง ใช้เวลาประมาณ 2-5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับปริมาณหัตถการที่ต้องทำ ผู้ป่วยจะได้รับการฉีดยาชาเฉพาะที่หรือยาสลบทั่วไป ภายหลังการผ่าตัด แพทย์จะปิดแผลด้วยไหมเย็บหรือแผ่นแปะปิดแผล ผู้ป่วยจะต้องพักฟื้นในโรงพยาบาลประมาณ 1-2 วัน หลังจากนั้นจึงสามารถกลับบ้านได้
ศัลยกรรมปรับเปลี่ยนหน้า ชายเป็นหญิงมีข้อดีและข้อเสียดังต่อไปนี้
ข้อดี
- ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนหวาน งดงาม ใกล้เคียงกับผู้หญิงมากขึ้น
- เพิ่มความมั่นใจในตนเอง
- ช่วยให้ใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข
ข้อเสีย
- เป็นการผ่าตัดที่ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์
- อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อ แผลติดเชื้อ เลือดออก เส้นประสาทได้รับบาดเจ็บ คางเบี้ยว
- ใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1-2 วัน
- อาจมีค่าใช้จ่ายสูง
ก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรมปรับเปลี่ยนหน้า ชายเป็นหญิง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น