ปลายจมูกหมูหรือปลายจมูกชมพู่ มีลักษณะสั้น กว้าง และกลมมน มักพบในคนที่มีเนื้อเยื่อปลายจมูกส่วนปลายมากเกินไป หรือกระดูกอ่อนปลายจมูกอ่อนตัวจนไม่สามารถทำให้ปลายจมูกโด่งขึ้นได้
การแก้ปลายจมูกหมู/ปลายจมูกชมพู่สามารถทำได้ด้วยการผ่าตัด โดยใช้วิธีใดวิธีหนึ่งหรือหลายวิธีร่วมกัน ดังนี้
- การตัดเนื้อเยื่อส่วนเกินบริเวณปลายจมูก เป็นวิธีที่นิยมใช้กันมากที่สุด แพทย์จะทำการกรีดแผลที่ปลายจมูก จากนั้นจะใช้เครื่องมือผ่าตัดหรือเลเซอร์เพื่อตัดเนื้อเยื่อส่วนเกินออก
- การตัดกระดูกอ่อนปลายจมูก เป็นวิธีที่ใช้ในกรณีที่เนื้อเยื่อปลายจมูกส่วนเกินมาก หรือกระดูกอ่อนปลายจมูกอ่อนตัวจนไม่สามารถทำให้ปลายจมูกโด่งขึ้นได้ แพทย์จะทำการกรีดแผลที่ปลายจมูก จากนั้นจะใช้เครื่องมือผ่าตัดหรือเลเซอร์เพื่อตัดกระดูกอ่อนปลายจมูกออก
- การเย็บกระดูกอ่อนปลายจมูก เป็นวิธีที่ใช้ในกรณีที่กระดูกอ่อนปลายจมูกไม่แข็งแรงเพียงพอที่จะพยุงปลายจมูกให้โด่งขึ้น แพทย์จะทำการกรีดแผลที่ปลายจมูก จากนั้นจะใช้เครื่องมือผ่าตัดหรือเลเซอร์เพื่อเย็บกระดูกอ่อนปลายจมูกให้แข็งแรงขึ้น
ระยะเวลาในการพักฟื้นหลังการผ่าตัดแก้ปลายจมูกหมู/ปลายจมูกชมพู่ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ผู้ป่วยควรงดการทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงหรือยกของหนัก หลีกเลี่ยงการโดนน้ำบริเวณแผล และควรทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
ข้อดีของการแก้ปลายจมูกหมู/ปลายจมูกชมพู่ ดังนี้
- ช่วยให้ปลายจมูกดูเรียวขึ้น
- ช่วยให้ใบหน้าดูสมส่วนมากขึ้น
- เพิ่มความมั่นใจในตนเอง
ข้อเสียของการแก้ปลายจมูกหมู/ปลายจมูกชมพู่ ดังนี้
- เป็นการผ่าตัดที่ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์
- อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อ แผลติดเชื้อ เลือดออก เส้นประสาทได้รับบาดเจ็บ จมูกเบี้ยว
- ใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1-2 สัปดาห์
- มีค่าใช้จ่ายสูง
ก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรมแก้ปลายจมูกหมู/ปลายจมูกชมพู่ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น